2012-12-29
5 สมุนไพรบำรุงกระดูกเพื่อผู้สูงอายุ
5 สมุนไพรบำรุงกระดูกเพื่อผู้สูงอายุ
วัยสูงอายุเป็นวัยที่ร่างกายเสื่อมโทรมในหลายด้าน โดยเฉพาะภาวะกระดูกพรุน เนื่องจากเซลล์ของกระดูกมีการสลายมากกว่าการสร้าง จึงทำให้กระดูกหักได้ง่าย
ในการป้องกันภาวะนี้สำหรับผู้สูงอายุ นอกจากยาแผนปัจจุบันซึ่งต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศเป็นจำนวนเงินมากมายแล้ว สมุนไพรไทย ๆ ยังสามารถใช้ทดแทนได้ดีและใช้กัน
1. ยอ ใบยอมีแคลเซียมสูง (469 – 841 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม) ใบใช้ประกอบอาหาร เช่น ห่อหมก แกงอ่อม นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางยา เช่น ใบอ่อนใช้เป็นยาลดความร้อนในร่างกาย แก้ไข บำรุงธาตุ แก้ท้องร่วงในเด็ก แก้เหงือกบวม และปวดข้อ
2. ช้าพลูหรือชะพลู ใบช้าพลูนิยมใช้เป็นผักรับประทานกับเมี่ยงคำ ส้มตำ ข้าวยำ และใช้ทำแกงเลียง ใบประกอบด้วยแคลเซียมในปริมาณสูง (601 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม) และยังพบธาตุฟอสฟอรัส เหล็ก และวิตามินต่าง ๆ
3. มะขาม ฝักมะขามอ่อนมีแคลเซียมสูง (429 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม) ทางด้านอาหารใช้ยอดปรุงแกง ดอกใช้ยำ ส่วนฝักอ่อนใช้ตำน้ำพริก เนื้อในผักแก่รับประทานเป็นผลไม้หรือใช้ปรุงแต่งรสเปรี้ยวให้อาหาร นอกจากนี้มะขามเปียกยังใช้เป็นยาระบายอ่อน ๆ แก้ไอและขับปัสสาวะ
4. แค ยอดแคมีแคลเซียมสูง (395 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม) นิยมนำมาลวกเป็นผักจิ้มน้ำพริก ใช้รับประทานแก้ไข้หัวลม (ใช้ที่เกิดขึ้นเมื่ออากาศเปลี่ยนแปลง) ส่วนดอกแคยังนิยมใช้ปรุงอาหาร เช่น แกงส้ม และใช้ลวกเป็นผักจิ้ม
5. ผักกระเฉด ใบและลำต้นที่แกะนวมออกแล้วใช้ปรุงเป็นอาหาร เช่น แกงส้ม
ที่มา : ชีวจิต
2012-12-18
เคล็ดลับผมเงางามด้วยดอกอัญชัน
เคล็ดลับผมเงางามด้วยดอกอัญชัน
ช่วงไหนที่รู้สึกว่าผมขาดความเงางาม ลองหมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าว 5 ช้อนโต๊ะ น้ำจากดอกอัญชันประมาณ 8 – 10 ดอก และไข่แดง 1 ฟอง ชโลมทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก ผมคุณจะเงางามอย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ อ้อ สูตรนี้สงวนสิทธิ์สำหรับสาวผมดำเท่านั้นนะคะ
สาว ๆ คนไทยที่ต้องการย้อนผมเอง ต้องระวังน้ำยาเลอะติดผิวสวยด้วยนะคะ โดยเฉพาะบริเวณต้นคอ ใบหู และผิวบริเวณไรผม ให้ป้องกันปัญหานี้ได้ด้วยการทาวาสลีนหรือยาสีฟันไว้บริเวณผิวส่วนนี้ค่ะ
รักษาความสะอาดให้เส้นผมแล้วก็อย่าลืมหมั่นทำความสะอาดหวีของเราด้วยนะคะ ควรล้างหวีอย่างน้อย 2 สัปดาห์ / ครั้ง ด้วยน้ำสบู่หรือแชมพูอ่อน ๆ และ ใช้แปรงสีฟันแปรงคราบฝุ่นละอองที่ติดอยู่บนหวีให้หมดจด ซับด้วยผ้าขนหนูแล้วทิ้งไว้ให้แห้ง แค่นี้หวีของคุณก็น่าใช้มากขึ้นแล้วล่ะค่ะ
ที่มา : Spicy
2012-12-14
ฟักทองลดไขมันในเลือด (จบ)
เมล็ดฟักทอง บรรเทาต่อมลูกหมากโต
น้ำมันเมล็ดฟักทองเป็นส่วนประกอบของยาพื้นบ้านที่ใช้ดูแลสุขภาพต่อมลูกหมาก มีงานวิจัยสนับสนุนประสิทธิภาพการใช้เมล็ดฟักทองรักษาอาการต่อมขึ้นไปอาจมีต่อมลูกหมากโต (benign prostatic hyperplacia) ชายวัย 55 ปี และกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะไม่แข็งแรงพอจะบีบต้านแรงกดของต่อมลูกหมาก จึงทำให้เกิดมีอาการอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ โรคนี้อาจพบได้ประมาณร้อยละ 10 ของผู้ชายสูงอายุ
งานวิจัยสารสกัดเมล็ดฟักทองกับการทำงานของแอนโดรเจน รีเซปเตอร์ซึ่งมีผลควบคุมการเจริญของลูกหมาก จากใช้สารสกัดเมล็ดฟักทองกับชุดตรวจวัดแอนโดรเจน รีเซปเตอร์ รีพอร์ตเตอร์ยีน พบว่าสารสกัดจากเมล็ดฟักทองมีผลต้านฤทธิ์แอนโดรจีนิก (antiandrogenic effect) จริง การบริโภคเมล็ดฟักทองจึงอาจมีผลดีต่อผู้ที่มีอาการต่อมลูกหมากโตได้
ฟักทองกับความงามผิวพรรณ
เอนไซม์จากเนื้อฟักทองบด (รวมเมล็ด) มีความสามารถในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ มีสารต้านออกซิเดชั่น วิตามิน และแร่ธาตุจำเป็นที่ผิวต้องการ เมล็ดฟักทองมีวิตามินอี กรดไขมันไม่อิ่มตัว และสเตอรอล จึงช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นและซ่อมแซมผิว
พืชสามัญเช่นฟักทองนี้ดีอยู่ในตัวพอดู ลองชวนคุณพ่อบ้านบริโภคเมล็ดฟักทองขณะดูโทรทัศน์ เพื่อสุขภาพที่ดีในวันหน้าไหมคะ
2012-12-13
ฟักทองลดน้ำตาลในเลือด (2)
คุณค่าทางโภชนาการของฟักทองดิบ
ฟักทองดิบคุณค่าทางอาหารต่อ 100 กรัม
พลังงาน 10 กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 6.4 กรัม
· น้ำตาล 1.36 กรัม
· เส้นใย 0.5 กรัม
ไขมัน 0.1 กรัม
· อิ่มตัว 0.05 กรัม
· Monounsaturated 0.01 กรัม
· Polyunsaturated 0.01 กรัม
โปรตีน 1.0 กรัม
บีตาแคโรทีน 369 ไมโครกรัม ร้อยละ 41
วิตามีนบี 1 3,100 ไมโครกรัม ร้อยละ 29
วิตามีนบี 2 0.05 มิลลิกรัม ร้อยละ 4
วิตามีนบี 3 0.110 มิลลิกรัม ร้อยละ 7
วิตามีนบี 4 0.6 มิลลิกรัม ร้อยละ 4
วิตามีนบี 5 0.298 มิลลิกรัม ร้อยละ 6
วิตามีนบี 6 0.061 มิลลิกรัม ร้อยละ 5
โฟเลต 16 ไมโครกรัม ร้อยละ 4
วิตามีนซี 9 มิลลิกรัม ร้อยละ 15
วิตามินอี 1.06 มิลลิกรัม ร้อยละ 7
แคลเซียม 21 มิลลิกรัม ร้อยละ 2
เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม ร้อยละ 6
แมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม ร้อยละ 3
ฟอสฟอรัส 44 มิลลิกรัม ร้อยละ 6
โพแทสเซียม 340 มิลลิกรัม ร้อยละ 7
โซเดียม 1 มิลลิกรัม ร้อยละ 0
สังกะสี 0.32 มิลลิกรัม ร้อยละ 3
ร้อยละ ตามคำแนะนำของ USDA
“น้ำตาลโพลีแซ็กคาไรด์ที่ตรึงกับโปรตีนในเนื้อฟักทอง มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด”
น้ำมันเมล็ดฟักทอง
ใช้ปรุงอาหารได้ ใช้ในประเทศแถบยุโรปตะวันออกและตอนกลาง น้ำมันเมล็ดฟักทอง (ร้อยละ 42.2 ตามน้ำหนัก) มีวิตามินอี กรดไขมันไม่อิ่มตัว มีการใช้น้ำมันเมล็ดฟักทองในการป้องกันต่อมลูกหมากโต ลดความดันเลือด ลดอาการคลอเลสเตอรอลสูง โรคปวดข้อเข่าช่วยสมรรถภาพกระเพาปัสสาวะ ลดปริมาณน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน และใช้ในผู้ป่วยมะเร็ง กระเพาะอาหาร เต้านม ปอด และลำไส้ใหญ่
ปริมาณน้ำมันมีร้อยละ 11 -13 ปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวมีร้อยละ 73 -81 ที่พบมากคือกรดไบโนเลอิกโอเลอิก ปาล็มมิติก และสเตอริก พบอัลฟ่า – แกมม่า – และเดลต้า – โทโคฟีรอลในปริมาณ 27.1 – 75.1 , 74.9 – 492.8 และ 35.3 – 1,109.7 มิลลิกรัมต่อกรัม น้ำมันตามลำดับซึ่งเป็นปริมาณที่สูง ปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวและวิตามินอีทำให้เมล็ดฟักทองเป็นอาหารที่เสริมคุณค่าโภชนาการอาหารประจำวันได้ดีมากชนิดหนึ่ง
2012-12-12
ฟักทองลดน้ำตาลในเลือด
ฟักทองลดน้ำตาลในเลือด
“ฟักทองมีคุณค่าทางอาหารสูง แต่ให้พลังงานต่ำ
จึงเหมาะแก่ผู้ที่ต้องควบคุมอาหาร”
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cucurbita moschata Duchesne
ชื่อสามัญ Winter squash, Buttercup squash หรือ Pumpkin
วงศ์ Cucurbitaceae
ใบฟักทอง
ประเทศไทยและประเทศในทวีปแอฟริกามีการกินใบอ่อนของฟักทองและฟักทอง ฮัลโลวีน
ใบฟักทองฮัลโลวีนมีธาตุสังกะสี (0.8 มก.) เหล็ก (10.1 มก.) แคลเซียม (0.07 มก.) กรัมต่อ 100 กรัม ผัดกับน้ำมันจะดูดซึมได้ดีในร่างกายมนุษย์ เพราะวิตามินเอละลายในน้ำมัน
ผลฟักทอง
มีลักษณะทรงแบนสีเขียวเข้ม หนัก 1 -2 กิโลกรัม เนื้อในสีเหลืองส้ม
ประเทศสหรัฐอเมริกาประกอบอาหารจากผลสุกฟักทองนี้หลายชนิด โดยอบ ย่าง และบดใส่ซุปเหมือนกับฟักทองฮัลโลวีน
ประเทศบราซิลและแอฟริกานิยมปรุงเป็นซุป
ประเทศญี่ปุ่นนำมาชุบแป้งทอดเป็นเทมปุระ
ประเทศไทยนำมาประไทยนำมาประกอบอาหารไทยผัดใส่ไข่ ทำแกงเผ็ดฟักทองน้ำข้นมีรสดี ฝานบางอบแห้งทำข้าวเกรียบ หรือบรรจุด้วยสังขยานึ่งขนมหวาน สามารถนำเนื้อไปทำขนมพายได้เหมือนฟักทองฮัลโลวีน
เนื่องจากฟักทองมีคุณค่าทางอาหารสูงแต่ให้พลังงานต่ำจึงเหมาะแก่ผู้ที่ต้องควบคุมอาหาร
น้ำจากเนื้อฟักทองลดน้ำตาลในเลือด
งานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนพบว่า น้ำตาลโพลีแซ็กคาไรด์ที่ตรึงกับโปรตีนในเนื้อฟักทองมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด น้ำตาลดังกล่าวละลายได้ในน้ำคั้นผลฟักทอง เมื่อทดสอบกับหนูที่เป็นเบาหวานจากสารอัลล็อกซาน พบว่า น้ำตาล – โปรตีนดังกล่าวเพิ่มระดับอินซูลินในซีรั่ม ลดระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มการทนกลูโคส (glucose tolerance) สารสกัดน้ำตาลดังกล่าวในปริมาณ 1,000 มก. / กก. น้ำหนัก ให้ผลดีกว่าการให้ปริมาณต่ำ ๆ และดีกว่ากลุ่มที่ได้รับยาเบาหวาน จึงสามารถนำผลการศึกษาไปใช้กับผู้ป่วยเบาหวานได้
เมล็ดฟักทอง
คั่วและกินเป็นอาหารขบเคี้ยวได้ มีธาตุเหล็กสังกะสี โพแทสเซียม แมกนีเซียม และกรดไขมันจำเป็น
เมล็ดฟักทอง 1 กรัม มีกรดอะมิโนทริปโทเฟนมากเท่ากับที่มีในนมสดหนึ่งแก้ว
เมล็ดฟักทองมีน้ำมันที่อุดมไปด้วยสารแกมม่าโทโคฟีรอล (รูปหนึ่งของวิตามินอี) สารนี้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอนุมูลอิสระที่มีไนโตรเจนเป็นส่วนประกอบ จึงสามารถชะลอความแก่ได้เป็นอย่างดี
“เมล็ดฟักทอง 1 กรัม มีกรดอะมิโนทริปโทเฟนมากเท่ากับที่มีในนมสดหนึ่งแก้ว”
Subscribe to:
Posts (Atom)