2012-12-13

ฟักทองลดน้ำตาลในเลือด (2)

คุณค่าทางโภชนาการของฟักทองดิบ
ฟักทองดิบคุณค่าทางอาหารต่อ 100 กรัม
พลังงาน 10 กิโลแคลอรี่

คาร์โบไฮเดรต 6.4 กรัม
· น้ำตาล 1.36 กรัม
· เส้นใย 0.5 กรัม
ไขมัน 0.1 กรัม
· อิ่มตัว 0.05 กรัม
· Monounsaturated 0.01 กรัม
· Polyunsaturated 0.01 กรัม

โปรตีน 1.0 กรัม
บีตาแคโรทีน 369 ไมโครกรัม ร้อยละ 41
วิตามีนบี 1 3,100 ไมโครกรัม ร้อยละ 29
วิตามีนบี 2 0.05 มิลลิกรัม ร้อยละ 4
วิตามีนบี 3 0.110 มิลลิกรัม ร้อยละ 7
วิตามีนบี 4 0.6 มิลลิกรัม ร้อยละ 4
วิตามีนบี 5 0.298 มิลลิกรัม ร้อยละ 6
วิตามีนบี 6 0.061 มิลลิกรัม ร้อยละ 5
โฟเลต 16 ไมโครกรัม ร้อยละ 4
วิตามีนซี 9 มิลลิกรัม ร้อยละ 15
วิตามินอี 1.06 มิลลิกรัม ร้อยละ 7
แคลเซียม 21 มิลลิกรัม ร้อยละ 2
เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม ร้อยละ 6
แมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม ร้อยละ 3
ฟอสฟอรัส 44 มิลลิกรัม ร้อยละ 6
โพแทสเซียม 340 มิลลิกรัม ร้อยละ 7
โซเดียม 1 มิลลิกรัม ร้อยละ 0
สังกะสี 0.32 มิลลิกรัม ร้อยละ 3
ร้อยละ ตามคำแนะนำของ USDA

“น้ำตาลโพลีแซ็กคาไรด์ที่ตรึงกับโปรตีนในเนื้อฟักทอง มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด”

น้ำมันเมล็ดฟักทอง

ใช้ปรุงอาหารได้ ใช้ในประเทศแถบยุโรปตะวันออกและตอนกลาง น้ำมันเมล็ดฟักทอง (ร้อยละ 42.2 ตามน้ำหนัก) มีวิตามินอี กรดไขมันไม่อิ่มตัว มีการใช้น้ำมันเมล็ดฟักทองในการป้องกันต่อมลูกหมากโต ลดความดันเลือด ลดอาการคลอเลสเตอรอลสูง โรคปวดข้อเข่าช่วยสมรรถภาพกระเพาปัสสาวะ ลดปริมาณน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน และใช้ในผู้ป่วยมะเร็ง กระเพาะอาหาร เต้านม ปอด และลำไส้ใหญ่

ปริมาณน้ำมันมีร้อยละ 11 -13 ปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวมีร้อยละ 73 -81 ที่พบมากคือกรดไบโนเลอิกโอเลอิก ปาล็มมิติก และสเตอริก พบอัลฟ่า – แกมม่า – และเดลต้า – โทโคฟีรอลในปริมาณ 27.1 – 75.1 , 74.9 – 492.8 และ 35.3 – 1,109.7 มิลลิกรัมต่อกรัม น้ำมันตามลำดับซึ่งเป็นปริมาณที่สูง ปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวและวิตามินอีทำให้เมล็ดฟักทองเป็นอาหารที่เสริมคุณค่าโภชนาการอาหารประจำวันได้ดีมากชนิดหนึ่ง