2015-11-30

Health WholeGrains โฮลเกรนประโยชน์เต็มเมล็ด




ปัจจุบันผู้บริโภคใส่ใจเรื่องของการกินเพื่อสุขภาพ จะรู้จักคำว่า "โฮลเกรน (Whole Grains)" สำหรับบางคนอาจจะนึกไม่ออก ให้นึกถึงเมล็ดข้าว หรือเมล็ดธัญพืชต่าง ๆ ที่กระเทาะเมล็ดโดยครกกับสาก
 
โฮลเกรน (Whole Grains) คือ ธัญพืชเต็มเมล็ดที่ไม่ผ่านการขัดสี หรือผ่านการขัดสีน้อยมาก มีส่วนประกอบที่สำคัญของธัญพืชอยู่ครบถ้วน  มีทั้งเยื่อหุ้มเมล็ด เป็นส่วนนอกสุดที่มีใยอาหาร ไฟโตนิวเตรียนท์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินบี และโปรตีน ส่วนเนื้อเมล็ด เป็นส่วนหลักของธัญพืช และแหล่งรวมของคาร์โบไฮเดรต และโปรตีนอีกเล็กน้อย และส่วนจมูกข้าว แม้จะเป็นส่วนที่เล็กที่สุดของธัญพืช แต่ก็มีสารอาหารมากกมาย ไม่ว่าจะเป็นไฟโตนิวเตรียนท์ วิตามินบี วิตามินเอ ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม ทองแดง สังกะสี และไขมันอิ่มตัวเชิงซ้อน
 
ลักษณะพิเศษของโฮลเกรน มีความสำคัญอยู่หลายด้าน หนึ่งในนั้นคือ มีวิตามิน แร่ธาตุ ค่อนข้างจะครบถ้วน มีอยู่ในธรรมชาติ อันที่สองคือ ตัวไฟเบอร์หรือใยอาหาร กลไกของมันคือ พอร่างกายกินไปแล้วมันไม่ย่อยแล้วดูดซึม แต่มันอมน้ำ มีน้ำหนัก ไหลผ่านลำไส้ กระเพาะ ระหว่างที่มันไหลผ่าน มันไปลากเอาไขมัน ลากเอาสารก่อมะเร็ง ลากเอาน้ำตาลที่ติดไปไว้ที่ลำไส้ใหญ่แล้วก็ขับถ่ายออกไป กลไกตัวนี้แหละคือกลไกที่มหัศจรรย์ของใยอาหาร ถ้าเรากินอาหารโฮลเกรนในมื้อนั้นเสร็จแล้ว ประมาณครึ่งชั่วโมงมันก็ลากไปแล้ว มันก็ลากไปทุกมื้อๆ
 
ประโยชน์ ของโฮลเกรนหรืออาหารธัญพืช คือ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ความดันสูง โรคมะเร็งในทางเดินอาหาร โรคเบาหวานชนิดที่ 2 หรือช่วยป้องกันท้องผูก แต่ยังมีอีกส่วนน้อยเท่านั้นที่จะรู้ว่าถ้าหันมาบริโภคโฮลเกรน เป็นประจำจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้วที่สำคัญ จะช่วยให้ร่างกายกระชับ หุ่นเพรียวขึ้น เพราะเส้นใยและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนในโฮลเกรนทำให้ร่างกายย่อยอาหารช้าลง จึงรู้สึกอิ่มนาน และมีผลต่อการลดน้ำหนักในระยะยาว งานวิจัย พบว่า หากกินอาหารโฮลเกรน 40 กรัมทุกวันจะทำให้น้ำหนักลดลงถึงเดือนละ 0.49 กิโลกรัม โดยไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
 
คุณหมีผู้ที่ทานโฮลเกรนเป็นประจำกล่าวว่า .. โฮลเกรนนอกจากสะดวก และมีประโยชน์แล้ว ยังทำให้เขาน้ำหนักลดด้วย ก่อนหน้านี้เขา 125 กก. หลังจากทาน 2 สัปดาห์ติดต่อกัน ตอนนี้ 115 กก.
 
มีผลการวิจัยชี้ให้เห็นว่า คนที่บริโภคโฮลเกรนเป็นประจำ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอ้วน และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้มากถึง 21-37% นอกจากนี้การบริโภคโฮลเกรนเป็นประจำยังดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน เพราะโฮลเกรนจะช่วยทำให้อินซูลินทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้นอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของธัญพืชที่รับประทานในแต่ละวันควรเป็นโฮลเกรน” (อินดรา เมโรทรา ผอ.สถาบันวิจัยสุขภาพและโภชนาการเบลล์ สหรัฐอเมริกา)
 
สำหรับประเทศไทย ข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับการรับประทาน โฮลเกรนยังมีอยู่น้อยมาก แต่หากพิจารณาจากการรับประทาน “ข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ขัดสี” ซึ่งเป็นโฮลเกรนชนิดหนึ่ง จะพบว่า มีคนไทยเพียงร้อยละ   8.9 เท่านั้นที่บริโภคข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ขัดสี คนไทยโดยรวมได้รับ ใยอาหารจากธรรมชาติในปริมาณที่น้อยลง เพราะนิยมบริโภคอาหารส่วนใหญ่ที่เป็นข้าวแป้งและผลิตภัณฑ์ที่ขัดสี
 
เราเป็นคนไทยต้องกินข้าวเป็นมื้อหลัก หากให้กินบริโภคต่อเนื่องตลอดไปเลยอาจจะทำไม่ได้ และด้วยโฮลเกรนบางยี่ห้อที่เป็นซีเรียลอาหารเช้านั้นราคาสูงเกินไปสำหรับผู้บริโภคบางกลุ่ม จึงทำให้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร แต่สำหรับการเริ่มต้นรับประทานโฮลเกรนนั้น สามารถทำได้โดยผสมโฮลเกรนกับธัญพืชขัดสีอย่างละครึ่ง ก็จะช่วยทำให้รับประทานได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันยังมีการนำเอาโฮลเกรนไปแปรรูปเป็นอาหารต่าง ๆ มากมาย อาทิ ขนมปัง เส้นพาสต้า เส้นก๋วยเตี๋ยว ซีเรียล ช่วยทำให้เราเลือกรับประทานกันได้ง่ายยิ่งขึ้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราหันมาบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโฮลเกรน .. คุณว่าดีมั๊ย?