2013-04-06
2013-02-28
มะขาม เป็นยาดีและเครื่องสำอางชั้นยอด
มะขาม เป็นยาดีและเครื่องสำอางชั้นยอด
มะขาม หรือ Tamarind เป็นพืชพื้นบ้านไทยที่ส่วนใหญ่ใช้ปรุงอาหาร ยกเว้นมะขามหวานที่ทานสด แต่มะขามเปรี้ยวถูกนำมาใช้ประโยชน์มากกว่า เพราะความเปี้ยวนั่นเองที่ทำกับข้าวได้อร่อยได้รสชาติต่างจากน้ำมะนาว
ในมะขามอุดมด้วยวิตามินบี 2 แคลเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และยังมีกรดผลไม้หลายชนิดเช่น กรดซิตริก กรดทาทาริค เป็นต้น ที่สำคัญมีวิตามินเอ วิตามินซีสูง มะขามนอกจากจะใช้ปรุงอาหารแล้ว ยังมีฤทธิ์เป็นยา คนที่เป็นหวัดนานๆ ไม่หายสักทีลองรับประทานมะขามดูสัก 2-3 ฝัก หรือทำน้ำมะขามดื่ม รับรองหายไข้ เพราะมีสรรพคุณลดอุณหภูมิในร่างกายได้ดี หวัดหายเป็นปลิดทิ้ง แถมยังทำให้ชุ่มคอชื่นใจ หายเจ็บคอ ช่วยขับเสมหะอีกต่างหาก เหมาะมากกับช่วงฤดูฝนเช่นนี้ นอกจากนี้มะขามยังเป็นยาระบายที่ดีอีกด้วย
มาถึงวันนี้ความลับอันทรงคุณค่าของมะขามเพิ่งถูกค้นพบและดึงออกมาเป็นจุดเด่นใหม่ คือมะขามอุดมด้วยสาร AHA (Alpha hydroxyl acids) คือกรดผลไม้ เหมือนที่มีในแอปเปิ้ล องุ่น กระทั่งในนมก็มี สรรพคุณของ AHA คือช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดลอกออกไปเร็วเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิม ยิ่งในมะขามอุดมด้วยวิตามินซีมากก็จะช่วยบำรุงผิวด้วยอีกทางหนึ่ง คนไทยสมัยก่อนจึงนิยมนำน้ำมะขามเปียกคั้นแล้วมาทาใบหน้าทิ้งไว้สักพัก แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดก็จะได้ผิวหน้านุ่ม ใส ไร้สิว ปัจจุบันธุรกิจเครื่องสำอางที่กำลังเน้นไปที่การใช้สมุนไพรไทยเป็นจุดขาย จึงหันมาจับมะขามใส่หลอดแล้วจำหน่ายในรูปแบบของครีมล้างหน้า หรือครีมพอกหน้า บ้างก็ผสมไปกับขมิ้นชัน และน้ำผึงเพื่อเพิ่มสรรพคุณบำรุงผิว แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับคนที่ใช้มะขามบำรุงผิวหน้าคือระวัง เข้าตา กรดในมะขามทำให้แสบตาได้แบบไม่ลืมเลย สำหรับบางคนอาจจะแพ้สารในมะขามได้บ้าง โดยจะรู้สึกผิวแสบร้อนแบบนี้ก็ไม่ควรใช้
มะขามพืชไทยราคาถูก เปี่ยมสรรพคุณทรงคุณค่า ใช้ได้ทั้งกินทั้งทา สารพัดประโยชน์เช่นนี้ คงต้องรีบซื้อหามาติดบ้านไว้ หรือไปหามาปลูกสักต้นก็ไม่เลว
ที่มา : Health Today
2013-02-26
ข้าวซ้อมมือ ส้ม ฝรั่ง แอปเปิ้ล อาหารคนชอบเครียด
ข้าวซ้อมมือ ส้ม ฝรั่ง แอปเปิ้ล อาหารคนชอบเครียด
เทรนด์รักสุขภาพของสาวๆ สมัยนี้ แรงไม่มีตกจริงๆ ในงาน ฉลองครบรอบ 32 ปี สถาบันความงาม "ฟิลิป เวน" ที่สุขุมวิทคลับ นอกจากสาวๆ ผู้รักสุขภาพจะสนุกสนานไปงานปาร์ตี้แบบเอ็กคลูซีฟแล้ว ยังได้ สุวรรณี หล่อบรรจงสุข ผู้จัดการฟิลิปเวน สาขาสุขุมวิท มาเล่าถึงเทรนด์ความสวยความงามว่า ผู้หญิงยุคใหม่ สนใจเรื่องสุขภาพตั้งแต่หัวจรดเท้า เน้นเรื่องสุขภาพเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการออกกำลังกาย
เพื่อเอาใจสาวๆ เรื่องการรับประทานอาหาร รุ่งเรือง คลองบางลอ โภชนาการ และคอลัมน์นิสต์นิตยสารอาหารชื่อดังได้มาให้เคล็ดลับง่ายๆ ในการรับประทานอาหาร เริ่มจากสาวเจ้าเนื้อที่อยากผอม เธอแนะนำ สลัดน้ำโชยุ ทำง่ายๆ ด้วยการนำซอสคิคุแมน 1 ถ้วย ใส่น้ำตาลลงไปครึ่งถ้วย ใส่สาหร่ายอบแห่งบดละเอียด 1 แผ่น แล้วใส่งาขาวคั่ว 1 ส่วน 4 ถ้วย น้ำมันงา 1 ส่วน 4 ถ้วย ลงไป คนจนน้ำตาลละลาย พร้อมเสริฟกับผักสลัด
ส่วน "วัยรุ่น" รุ่งเรือง เตือนว่าอย่าอดอาหารมากเกินไป เพราะในอนาคตอาจมีปัญหาเป็นโรคกระดูกพรุนได้ ควรหันมารับประทานให้ครบ 5 หมู่ ทุกมื้อ แต่ถ้าปฏิบัติไม่ได้ ใน 1 วัน ควรรักประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่างน้อย 1 มื้อ สำหรับ "วัยทำงาน" โภชนากร ชมว่าเป็นวัยที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพมากที่สุด พร้อมกับแนะนำ "อาหารบำรุงผิว" มีในอาหารประเภทผัก ผลไม้ ที่อุดมไปด้วยวิตามิน เอ และวิตามินซี และหากจะดื่มน้ำผลไม้ แนะนำให้ดื่มน้ำคั้นสดๆ เพราะจะได้ประโยชน์มากกว่าน้ำผลไม้ที่จำหน่ายตามท้องตลาด "อาหารบำรุงสมอง" มีในอาหารประเภทปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู ถั่วเม็ดแห้งทุกชนิด
และในภาวะที่หันไปทางไหนก็มีแต่ความเครียด รุ่งเรือง แนะนำอาหารที่รับประทานแล้วคลายเครียดมาด้วย ได้แก่ ข้าวซ้อมมือ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงๆ เช่น ส้ม ฝรั่ง แอปเปิ้ล หลีกเลี่ยงอาหารที่รับประทานแล้วทำให้เครียดยิ่งขึ้นไปอีก เช่น ของหวานประเภทต่างๆ เช่น น้ำหวาน ลูกอม
ที่มา : มติชน
2013-02-15
กินวิตามิน..เกลือแร่แก้แพ้อากาศ
กินวิตามิน..เกลือแร่แก้แพ้อากาศ
คนไหนที่รู้ตัวว่ากำลังเป็นโรคแพ้อากาศ วันนี้มีทางออกที่ช่วยลดการแพ้อากาศมาบอก...
ลดอาการแพ้อากาศได้โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญควรกินผักผลไม้สด เพื่อให้ได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่ช่วยลดการแพ้อากาศวิตามินและเกลือแร่ที่ช่วยลดการแพ้อากาศ ได้แก่
- วิตามินซี ช่วยป้องกันและเสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือด ป้องกันหวัดและการแพ้อากาศ แหล่งที่พบมากได้แก่ ฝรั่ง ส้ม และสับปะรด
- วิตามินอี ช่วยสร้างภูมิคุ้นกัน ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรง แหล่งที่พบมากได้แก่ ธัญพืช ข้างกล้อง และรำข้าว
- วิตามินเอ ช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างการทำงานของเซลล์เม็ดเลือด แหล่งที่พบมากได้แก่ ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง แครอท มะเขือเทศ ฟักทอง มะละกอ และน้ำมันตับปลา
- สังกะสี (Zinc) ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และป้องกันอนุมูลอิสระ แหล่งที่พบมากได้แก่ อาหารทะเล ธัญพืช และผลิตภัณฑ์นม
- ซิลิเนียม (Selenium) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แหล่งที่พบมากได้แก่ เนื้อสัตว์ ธัญพืช จมูกข้าว รำข้าว เห็ด และกะหล่ำปลี
รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าอยากลดอาการแพ้อากาศ ลองหาวิตามินและเกลือแร่ที่แนะนำมาทานกันดีกว่า.
2013-02-04
5 อาหารเติมพลังยาม Diet
5 อาหารเติมพลังยาม Diet
แม้ว่ากาแฟสักถ้วย จะช่วยให้คุณแจ่มใสขึ้นทันตา แต่ก็มีผลแค่ประเดี๋ยวประด๋าวแถมผลยังมีผลเสีย ต่อสุขภาพกระดูกของผู้หญิงเราน่ะ อาจจะไม่คุ้มกัน ถ้าต้องพึ่งกาแฟ วันละหลายแก้ว เพื่อช่วยให้อารมณ์แจ๋ม ๆไปตลอดวัน แต่อาหาร 5 ชนิดที่จะแนะให้รับประทานกันนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนการ เขารับประกันว่า ทำให้ คุณอารมณ์แช่มชื่นไปตลอดวัน และที่สำคัญยังไม่เป็นพิษเป็นภัยกับร่างกายอีกด้วยค่ะ
1. กล้วย
กล้วยสุกใบย่อม ๆ 1 ผลน่ะ เป็นอาหารที่เหมาะมากสำหรับสาว ๆ ที่กำลังรักษาเชพซึ่งแน่นอนว่าย่อมต้องสวมหัวใจของสาวสปอร์ตกันด้วย ซึ่งเคล็ดลับที่ช่วยเพิ่มพลังก่อนออกกำลังกาย ก็คือ กินกล้วยสุกสัก 1 ผล รับรองว่าจะช่วยให้คุณฟิตหุ่นได้ตลอด 1 ชั่วโมง แบบแรงไม่ตกทีเดียวค่ะนอกจากกล้วยจะเป็นอาหารทรงพลังแล้วยังอุดมด้วยเส้นใยอาหาร และอุดมไปด้วยเกลือแร่ คือเป็นแหล่งวิตามินเอ บี และซี อีกด้วยค่ะ โดยเฉพาะวิตามินซี และเอ ทำให้หน้าตาสดชื่น แจ่มใส ไม่อิดโรย แม้คุณจะออกแรงเสียเหงื่อมากแค่ไหนก็ตาม
2. มันฝรั่ง
ใครทีเคยคิดว่า ไม่อยากอ้วน ต้องทำเมินกับมันฝรั่งแล้วล่ะก้อ ขอบอกว่าเข้าใจผิดแล้วล่ะ เพราะมันฝรั่งน่ะจัดเป็นอาหารที่ให้พลังงานอย่างยอดเยี่ยมก็จริงอยู่ แต่หากเปรียบเทียบกับขนมขบเคี้ยวที่เคลือบความหวานด้วยแล้ว ควรหันมาคว้ามันฝรั่งจะดีกว่า แต่ควรเลือกกินเป็นมันฝรั่งบด ต้ม หรืออบ จะราดน้ำฝึ้งให้หวานฉ่ำ หรือเติมนมสดพร่องไขมัน ก็อร่อยอย่าบอกใคร แถมยังได้สารอาหารดี ๆ อีกเยอะ เพราะในมันฝรั่งนั้น อุดมด้วยธาตุเหล็ก วิตามินเอ บี1 บี2 บี 6 และโพแทสเซียม แต่ควรเลี่ยงมันฝรั่งทอด หรือเฟรนฟรายด์ สแน็กยอดนิยมของวัยรุ่นยุคนี้ เพราะมีแคลอรี่สูงถึง 500 กิโลแคลอรี่ ในปริมาณ 100 กรัม เมื่อเทียบกับมันฝรั่งบดในปริมาณ เท่ากัน ซึ่งให้แคลอรี่เพียง 85 กิโลแคลอรี่
3. แครอต
สำหรับมื้อว่างยามบ่าย ที่คุณกำลังรู้สีกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้าจากภาระกิจยุ่งๆตลอดเช้าถ้าคุณเคยชินกับการดื่มน้ำอัดลมเย็น ๆสักกระป๋อง ซึ่งอาจทำให้อารมณ์สดชื่นขึ้นได้ก็จริงอยู่ แต่มักทำให้คุณอ้วนไม่รู้ตัว แถมยังเป็นภัยกับสุขภาพของกระดูกเสียด้วยสิ ลองเปลี่ยนมาเป็นน้ำแครอต หากปั่นสด ๆ ก็คงจะยิ่งดี เพราะไม่เพียงทำให้คุณอารมณ์แจ่มใสขึ้น รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้น แต่ยังมีคงคุณค่าของวิตามินเอ และซี ซึ่งช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย และยังทำให้ผิวพรรณสดใสอีกด้วยค่ะ
4. คอร์นเฟลค หรือข้าวโอ๊ตอบ
คอร์นเฟลคหรือข้าวโอ๊ตอบแห้งนั้น แม้ว่าคุณจะเลือกชนิดที่ไม่เคลือบน้ำตาล ก็ยังจัดว่าเป็นอาหารเพิ่มพลังยามเช้าได้อย่างดี หากเพิ่มนมไขมันต้ำ หรือเติมโยเกิร์ต และตามด้วยผลไม้สด ๆ ที่คุณชอบ ก็จะเป็นอาหารเช้าที่เพอร์เฟ็คสุด ๆ เพราะ นอกจากจะให้พลังงานแก่กล้ามเนื้อแล้ว ยังได้รับโปรตีนและสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของสมองอีกด้วยค่ะ
5. น้ำ
น้ำเปล่านี่แหล่ะ ดีที่สุดค่ะ ยิ่งในยามที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้า คุณควรดื่มน้ำให้มากขึ้น แต่ไม่ควรรอให้รู้สึกหิวน้ำแล้วค่อยตามหาแก้วน้ำนะคะ ควรจิบน้ำอยู่บ่อย ดื่มให้ได้ตลอดวัน ถ้าไม่สะดวกหรือกันลืมก็ต้องวางแก้วน้ำและขวดน้ำไว้ประจำโต๊ะทำงาน พักสายตาจากงานยุ่ง ๆ เมื่อไหร่ ก็จะได้คว้าแก้วน้ำดื่มได้ทันที เพราะประโยชน์ของการดื่มน้ำน่ะ ไม่เพียงช่วยดับร้อน ทำให้หายคอแห้งแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณสดใสช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานสะดวกคล่องตัว หมดปัญหาท้องผูก ที่ทำให้คุณอึดอัดท้องอีกด้วยนะคะ
ที่มา : Womanplus
หุ่นดีกับวิธี.. Coconut Diet
หุ่นดีกับวิธี.. Coconut Diet
วิธีใหม่เอี่ยมสำหรับวงการไดเอท คิดค้นโดย "เชอรี่ คัลบอม" นักโภชนาการชื่อดัง วิธีนี้กำหนดว่าเราต้องไดเอทด้วยอาหารไขมันต่ำที่ปรุงจากน้ำมันมะพร้าวเท่านั้น ข้อดีของน้ำมันมะพร้าวถึงน้ำมันมะพร้าวอาจจะมีไขมันอิ่มตัวบ้าง แต่ก็มีข้อดีตรงที่สามารถกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญของร่างกายเราได้ดี ทำให้น้ำหนักลดเร็ว ยิ่งถ้าทานคู่ไปกับอาหารไขมันต่ำ หุ่นก็จะยิ่งเพรียวขึ้น สำหรับคนที่กลัวว่าไขมันอิ่มตัวในมะพร้าวจะมีโคเลสเตอรอลมากเกินก็อนุโลมให้ใช้น้ำมันมะกอกแทนได้ วิธี Coconut Diet แผนการนี้มีกำหนด 3 สัปดาห์ โดยให้เลือกทานอาหารจากรายการต่อไปนี้ หลังจาก 3 สัปดาห์นี้แล้ว สามารถทานคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้นได้ โดยเลือกจากรายการอาหารในสัปดาห์ที่ 4-5
สัปดาห์ที่ 1-3
อาหารเช้า - ไข่คน 2 ฟอง ใส่น้ำกะทิ 1 ช้อน กับแฮมเนื้อล้วนๆ 1 ชิ้น หรือไข่ดาวทอดน้ำมันมะพร้าว 2 ใบกับแฮมเนื้อล้วนๆ 1 ชิ้น
อาหารกลางวัน - ไก่ไร้หนังทอดด้วยน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ กินคู่กับสลัดผักสดเยอะๆ หรือปลาย่าง 1 ตัวกับผักสลัด และน้ำสลัดทำจากน้ำมันมะพร้าว หรือหมูสะเต๊ะ กับสลัดผัสด หรือสลัดกุ้งราดน้ำสลัดจากน้ำมันมะพร้าว
อาหารเย็น - สเต๊กปลา (ปลาทาน้ำมันมะพร้าวเอาไปอบหรือย่าง) ทานกับผักต้ม หรือยำวุ้นเส้นกินกับผักสดคลุกน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อย หรือแกงจืดตามใจชอบ และอกไก่ทอดน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ หรือผัดถั่วงอกใส่กุ้งกับพริก ใช้น้ำมันมะพร้าวในการผัด
สัปดาห์ที่ 4-5
อาหารเช้า - ไข่คน 2 ฟอง ใส่น้ำกะทิ 1 ช้อน กับแฮมเนื้อล้วนๆ 1 ชิ้น และขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น หรือไข่ดาวทอดน้ำมันมะพร้าว 2ใบกับแฮมเนื้อล้วนๆ 1 ชิ้น และขนมปังโฮลวีต 1 แผ่นหรือฟรุตสลัด (ผลไม้ตามใจชอบหั่นเป็นลูกเต๋าคลุกกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ)
อาหารกลางวัน - ไข่ต้มกับปลา (ทากะทิ) ย่าง หรือปลาผัดพริก (ผัดด้วยน้ำมันมะพร้าว) กับผักต้ม หรือสเต็กอกไก่ทอดน้ำมันมะพร้าวกับสลัดผัก หรือสลัดกุ้งกับผักสด น้ำสลัดทำจากน้ำมันมะพร้าว
อาหารเย็น - กุ้งผัดพริกแกง (ใส่กะทิ) ทานกับผักสดหรือผักต้ม หรือแกงเผ็ดอกไก่ (ใส่กะทิ) จะใส่หน่อไม้หรือไม่ก็ได้กับข้าวกล้องหรือสลัดปลาทูน่ากับมันอบตามใจชอบ
..Tip..
-สามารถทานผักสลัดได้ทุกชนิด ยกเว้นข้าวโพดหวาน ถั่วลันเตา และมันฝรั่ง เพราะมีคาร์โบไฮเดรตสูง
- ถ้าไม่ชอบน้ำมันมะพร้าว จะใช้น้ำมันมะกอกแทนได้
- งดน้ำชา กาแฟ และน้ำอัดลม และควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
ที่มา : spicy
2013-01-30
สมุนไพรรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
สมุนไพรรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้
โรคกระเพาะเป็นโรคที่พบได้บ่อยโรคหนึ่ง แต่อุบัติการของโรคนี้ในประเทศไทยยังไม่มีรายงานจำนวนที่แน่นอน โรคนี้พบได้ประมาณ 10% ของประชากรทั่วไป และพบได้ทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่จะมีอาการเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง
โรคกระเพาะตามความหมายของแพทย์ หมายถึง แผลที่กระเพาะอาหาร (gastric ulcer) หรือแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น (duodenal ulcer) ซึ่งมีรายงานจากโรงพยาบาลศิริราชว่าแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นพบมากกว่าแผลที่กระเพาะอาหารประมาณ 2 เท่า
แผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นพบบ่อยในวัยหนุ่มสาว โดยอายุเฉลี่ยของผู้เป็นโรคนี้คือ 35 ปี และพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 4 เท่า ส่วนแผลที่กระเพาะอาหารมักพบในวัยกลางคนขึ้นไป โดยอายุเฉลี่ยของผู้ที่เป็นโรคนี้คือ 42 ปี พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงประมาณ 3 เท่า
สาเหตุของโรคดังกล่าวยังไม่ชัดเจน ปกติจะมีสารเมือก (mucin) หลั่งออกจากต่อมในส่วนล่างของหลอดอาหาร กระเพาะอาหารและส่วนบนของลำไส้เล็ก เพื่อป้องกันเยื่อบุกระเพาะจากฤทธิ์กัดของน้ำย่อยที่เป็นกรดอย่างแรง แต่มีปัจจัยบางอย่างที่คาดว่าจะทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารอ่อนแอลง เกิดการอักเสบและเป็นแผลได้ง่าย เช่น ภาวะขาดอาหาร ภาวะเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ รับประทานยาหรือสารบางชนิดที่กัดกระเพาะ สูบบุหรี่จัด ดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนมากหรือเนื่องจากกรรมพันธุ์
อาการระยะแรก คือ ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ อาจมีความรู้สึกอิ่มแน่นหรือหิวร่วมด้วย แผลในกระเพาะอาหารมักปวดท้องหลังอาหารประมาณ 1-ชั่วโมงครึ่ง ส่วนแผลในลำไส้มักปวดท้องหลังอาหารประมาณ 2-4 ชั่วโมง และช่วงดึกหลังเที่ยงคืนด้วย
การรักษาจะไม่หายขาด ผู้ป่วยจะต้องดูแลตนเองคล้ายกับผู้ป่วยท้องอืด ท้องเฟ้อ ระยะที่ปวดท้องควรดื่มนมถั่วเหลืองทุก 3-4 ชั่วโมงพร้อมทั้งใช้สมุนไพรที่แนะนำ รับประทานอาหารอ่อน ทานอาหารครั้งละน้อยๆ แต่ทานบ่อยๆ งดอาหารรสจัดและสิ่งต้องห้ามข้างต้น และหาทางคลายเครียดด้วย จะมีสมุนไพรที่ช่วยรักษาเยื่อบุทางเดินอาหารให้แข็งแรงขึ้น และควรใช้สมุนไพรขับลมร่วมด้วย กล้วยน้ำว้ารับประทานผลดิบสดครั้งละครึ่งถึง 1 ผล อาจใช้ผลดิบหั่นบางๆตากแห้ง บดเป็นผงชงน้ำดื่ม ใช้ผงยาเท่ากับครึ่งถึง 1 ผล
ข้อควรระวัง อาจมีอาการท้องอืดหลังรับประทานยานี้ แก้ได้โดยดื่มน้ำต้มขิงหรือสมุนไพรขับลมอื่นๆขมิ้นชันผงขมิ้นครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 3-4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอนหรือปั้นเป็นลูกกลอนขนาดปลายนิ้วก้อย รับประทานครั้งละ 2 เม็ด
ที่มา : samunpri.com
2013-01-05
สมุนไพรจำกัดกลิ่นห้องน้ำ
สมุนไพรจำกัดกลิ่นห้องน้ำ
กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในห้องน้ำเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ความสุนทรีย์ในการทำธุระส่วนตัวของเราลดลง สามารถแก้ไขได้โดยการใช้สมุนไพรจากธรรมชาติดังต่อไปนี้
ใบเตย
มัดใบเตยสัก 4 -5 ใบรวมกัน นำไปแขวนไว้ห้องน้ำ หรือหากต้องการให้ได้กลิ่นหอมมากขึ้น แนะนำให้ตัดใบเตยออกเป็นท่อนเล็ก ๆ ใส่จานวางไว้ จะช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ
รวมพลัง ขิง ข่า ตะไคร้
ตำขิง ข่า และตะไคร้ รวมกันให้เนื้อสมุนไพรพอแตก จากนั้นนำส่วนผสมที่ได้ห่อด้วยผ้าขาวบาง มัดด้วยเชือก นำไปแขวนไว้ในห้องน้ำที่มีกลิ่นอับชื้น ก็ช่วยลดกลิ่นได้เช่นกันค่ะ
ที่มา : ชีวจิต
Subscribe to:
Posts (Atom)