2013-02-28

มะขาม เป็นยาดีและเครื่องสำอางชั้นยอด

มะขาม เป็นยาดีและเครื่องสำอางชั้นยอด


มะขาม หรือ Tamarind เป็นพืชพื้นบ้านไทยที่ส่วนใหญ่ใช้ปรุงอาหาร ยกเว้นมะขามหวานที่ทานสด แต่มะขามเปรี้ยวถูกนำมาใช้ประโยชน์มากกว่า เพราะความเปี้ยวนั่นเองที่ทำกับข้าวได้อร่อยได้รสชาติต่างจากน้ำมะนาว

ในมะขามอุดมด้วยวิตามินบี 2 แคลเซียม ฟอสฟอรัส โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และยังมีกรดผลไม้หลายชนิดเช่น กรดซิตริก กรดทาทาริค เป็นต้น ที่สำคัญมีวิตามินเอ วิตามินซีสูง มะขามนอกจากจะใช้ปรุงอาหารแล้ว ยังมีฤทธิ์เป็นยา คนที่เป็นหวัดนานๆ ไม่หายสักทีลองรับประทานมะขามดูสัก 2-3 ฝัก หรือทำน้ำมะขามดื่ม รับรองหายไข้ เพราะมีสรรพคุณลดอุณหภูมิในร่างกายได้ดี หวัดหายเป็นปลิดทิ้ง แถมยังทำให้ชุ่มคอชื่นใจ หายเจ็บคอ ช่วยขับเสมหะอีกต่างหาก เหมาะมากกับช่วงฤดูฝนเช่นนี้ นอกจากนี้มะขามยังเป็นยาระบายที่ดีอีกด้วย

มาถึงวันนี้ความลับอันทรงคุณค่าของมะขามเพิ่งถูกค้นพบและดึงออกมาเป็นจุดเด่นใหม่ คือมะขามอุดมด้วยสาร AHA (Alpha hydroxyl acids) คือกรดผลไม้ เหมือนที่มีในแอปเปิ้ล องุ่น กระทั่งในนมก็มี สรรพคุณของ AHA คือช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้หลุดลอกออกไปเร็วเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิม ยิ่งในมะขามอุดมด้วยวิตามินซีมากก็จะช่วยบำรุงผิวด้วยอีกทางหนึ่ง คนไทยสมัยก่อนจึงนิยมนำน้ำมะขามเปียกคั้นแล้วมาทาใบหน้าทิ้งไว้สักพัก แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดก็จะได้ผิวหน้านุ่ม ใส ไร้สิว ปัจจุบันธุรกิจเครื่องสำอางที่กำลังเน้นไปที่การใช้สมุนไพรไทยเป็นจุดขาย จึงหันมาจับมะขามใส่หลอดแล้วจำหน่ายในรูปแบบของครีมล้างหน้า หรือครีมพอกหน้า บ้างก็ผสมไปกับขมิ้นชัน และน้ำผึงเพื่อเพิ่มสรรพคุณบำรุงผิว แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับคนที่ใช้มะขามบำรุงผิวหน้าคือระวัง เข้าตา กรดในมะขามทำให้แสบตาได้แบบไม่ลืมเลย สำหรับบางคนอาจจะแพ้สารในมะขามได้บ้าง โดยจะรู้สึกผิวแสบร้อนแบบนี้ก็ไม่ควรใช้

มะขามพืชไทยราคาถูก เปี่ยมสรรพคุณทรงคุณค่า ใช้ได้ทั้งกินทั้งทา สารพัดประโยชน์เช่นนี้ คงต้องรีบซื้อหามาติดบ้านไว้ หรือไปหามาปลูกสักต้นก็ไม่เลว


 

ที่มา : Health Today

2013-02-26

ข้าวซ้อมมือ ส้ม ฝรั่ง แอปเปิ้ล อาหารคนชอบเครียด

ข้าวซ้อมมือ ส้ม ฝรั่ง แอปเปิ้ล อาหารคนชอบเครียด


เทรนด์รักสุขภาพของสาวๆ สมัยนี้ แรงไม่มีตกจริงๆ ในงาน ฉลองครบรอบ 32 ปี สถาบันความงาม "ฟิลิป เวน" ที่สุขุมวิทคลับ นอกจากสาวๆ ผู้รักสุขภาพจะสนุกสนานไปงานปาร์ตี้แบบเอ็กคลูซีฟแล้ว ยังได้ สุวรรณี หล่อบรรจงสุข ผู้จัดการฟิลิปเวน สาขาสุขุมวิท มาเล่าถึงเทรนด์ความสวยความงามว่า ผู้หญิงยุคใหม่ สนใจเรื่องสุขภาพตั้งแต่หัวจรดเท้า เน้นเรื่องสุขภาพเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และการออกกำลังกาย

เพื่อเอาใจสาวๆ เรื่องการรับประทานอาหาร รุ่งเรือง คลองบางลอ โภชนาการ และคอลัมน์นิสต์นิตยสารอาหารชื่อดังได้มาให้เคล็ดลับง่ายๆ ในการรับประทานอาหาร เริ่มจากสาวเจ้าเนื้อที่อยากผอม เธอแนะนำ สลัดน้ำโชยุ ทำง่ายๆ ด้วยการนำซอสคิคุแมน 1 ถ้วย ใส่น้ำตาลลงไปครึ่งถ้วย ใส่สาหร่ายอบแห่งบดละเอียด 1 แผ่น แล้วใส่งาขาวคั่ว 1 ส่วน 4 ถ้วย น้ำมันงา 1 ส่วน 4 ถ้วย ลงไป คนจนน้ำตาลละลาย พร้อมเสริฟกับผักสลัด

ส่วน "วัยรุ่น" รุ่งเรือง เตือนว่าอย่าอดอาหารมากเกินไป เพราะในอนาคตอาจมีปัญหาเป็นโรคกระดูกพรุนได้ ควรหันมารับประทานให้ครบ 5 หมู่ ทุกมื้อ แต่ถ้าปฏิบัติไม่ได้ ใน 1 วัน ควรรักประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ อย่างน้อย 1 มื้อ สำหรับ "วัยทำงาน" โภชนากร ชมว่าเป็นวัยที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพมากที่สุด พร้อมกับแนะนำ "อาหารบำรุงผิว" มีในอาหารประเภทผัก ผลไม้ ที่อุดมไปด้วยวิตามิน เอ และวิตามินซี และหากจะดื่มน้ำผลไม้ แนะนำให้ดื่มน้ำคั้นสดๆ เพราะจะได้ประโยชน์มากกว่าน้ำผลไม้ที่จำหน่ายตามท้องตลาด "อาหารบำรุงสมอง" มีในอาหารประเภทปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาทู ถั่วเม็ดแห้งทุกชนิด

และในภาวะที่หันไปทางไหนก็มีแต่ความเครียด รุ่งเรือง แนะนำอาหารที่รับประทานแล้วคลายเครียดมาด้วย ได้แก่ ข้าวซ้อมมือ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงๆ เช่น ส้ม ฝรั่ง แอปเปิ้ล หลีกเลี่ยงอาหารที่รับประทานแล้วทำให้เครียดยิ่งขึ้นไปอีก เช่น ของหวานประเภทต่างๆ เช่น น้ำหวาน ลูกอม


 

ที่มา : มติชน

2013-02-15

กินวิตามิน..เกลือแร่แก้แพ้อากาศ

กินวิตามิน..เกลือแร่แก้แพ้อากาศ


คนไหนที่รู้ตัวว่ากำลังเป็นโรคแพ้อากาศ วันนี้มีทางออกที่ช่วยลดการแพ้อากาศมาบอก...
ลดอาการแพ้อากาศได้โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญควรกินผักผลไม้สด เพื่อให้ได้รับวิตามินและเกลือแร่ที่ช่วยลดการแพ้อากาศวิตามินและเกลือแร่ที่ช่วยลดการแพ้อากาศ ได้แก่

- วิตามินซี ช่วยป้องกันและเสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือด ป้องกันหวัดและการแพ้อากาศ แหล่งที่พบมากได้แก่ ฝรั่ง ส้ม และสับปะรด

- วิตามินอี ช่วยสร้างภูมิคุ้นกัน ต้านอนุมูลอิสระ และเสริมสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรง แหล่งที่พบมากได้แก่ ธัญพืช ข้างกล้อง และรำข้าว

- วิตามินเอ ช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างการทำงานของเซลล์เม็ดเลือด แหล่งที่พบมากได้แก่ ผักบุ้ง คะน้า ตำลึง แครอท มะเขือเทศ ฟักทอง มะละกอ และน้ำมันตับปลา

- สังกะสี (Zinc) ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และป้องกันอนุมูลอิสระ แหล่งที่พบมากได้แก่ อาหารทะเล ธัญพืช และผลิตภัณฑ์นม

- ซิลิเนียม (Selenium) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน แหล่งที่พบมากได้แก่ เนื้อสัตว์ ธัญพืช จมูกข้าว รำข้าว เห็ด และกะหล่ำปลี

รู้อย่างนี้แล้ว ถ้าอยากลดอาการแพ้อากาศ ลองหาวิตามินและเกลือแร่ที่แนะนำมาทานกันดีกว่า.

2013-02-04

5 อาหารเติมพลังยาม Diet

5 อาหารเติมพลังยาม Diet


แม้ว่ากาแฟสักถ้วย จะช่วยให้คุณแจ่มใสขึ้นทันตา แต่ก็มีผลแค่ประเดี๋ยวประด๋าวแถมผลยังมีผลเสีย ต่อสุขภาพกระดูกของผู้หญิงเราน่ะ อาจจะไม่คุ้มกัน ถ้าต้องพึ่งกาแฟ วันละหลายแก้ว เพื่อช่วยให้อารมณ์แจ๋ม ๆไปตลอดวัน แต่อาหาร 5 ชนิดที่จะแนะให้รับประทานกันนั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนการ เขารับประกันว่า ทำให้ คุณอารมณ์แช่มชื่นไปตลอดวัน และที่สำคัญยังไม่เป็นพิษเป็นภัยกับร่างกายอีกด้วยค่ะ

1. กล้วย
กล้วยสุกใบย่อม ๆ 1 ผลน่ะ เป็นอาหารที่เหมาะมากสำหรับสาว ๆ ที่กำลังรักษาเชพซึ่งแน่นอนว่าย่อมต้องสวมหัวใจของสาวสปอร์ตกันด้วย ซึ่งเคล็ดลับที่ช่วยเพิ่มพลังก่อนออกกำลังกาย ก็คือ กินกล้วยสุกสัก 1 ผล รับรองว่าจะช่วยให้คุณฟิตหุ่นได้ตลอด 1 ชั่วโมง แบบแรงไม่ตกทีเดียวค่ะนอกจากกล้วยจะเป็นอาหารทรงพลังแล้วยังอุดมด้วยเส้นใยอาหาร และอุดมไปด้วยเกลือแร่ คือเป็นแหล่งวิตามินเอ บี และซี อีกด้วยค่ะ โดยเฉพาะวิตามินซี และเอ ทำให้หน้าตาสดชื่น แจ่มใส ไม่อิดโรย แม้คุณจะออกแรงเสียเหงื่อมากแค่ไหนก็ตาม

2. มันฝรั่ง
ใครทีเคยคิดว่า ไม่อยากอ้วน ต้องทำเมินกับมันฝรั่งแล้วล่ะก้อ ขอบอกว่าเข้าใจผิดแล้วล่ะ เพราะมันฝรั่งน่ะจัดเป็นอาหารที่ให้พลังงานอย่างยอดเยี่ยมก็จริงอยู่ แต่หากเปรียบเทียบกับขนมขบเคี้ยวที่เคลือบความหวานด้วยแล้ว ควรหันมาคว้ามันฝรั่งจะดีกว่า แต่ควรเลือกกินเป็นมันฝรั่งบด ต้ม หรืออบ จะราดน้ำฝึ้งให้หวานฉ่ำ หรือเติมนมสดพร่องไขมัน ก็อร่อยอย่าบอกใคร แถมยังได้สารอาหารดี ๆ อีกเยอะ เพราะในมันฝรั่งนั้น อุดมด้วยธาตุเหล็ก วิตามินเอ บี1 บี2 บี 6 และโพแทสเซียม แต่ควรเลี่ยงมันฝรั่งทอด หรือเฟรนฟรายด์ สแน็กยอดนิยมของวัยรุ่นยุคนี้ เพราะมีแคลอรี่สูงถึง 500 กิโลแคลอรี่ ในปริมาณ 100 กรัม เมื่อเทียบกับมันฝรั่งบดในปริมาณ เท่ากัน ซึ่งให้แคลอรี่เพียง 85 กิโลแคลอรี่

3. แครอต
สำหรับมื้อว่างยามบ่าย ที่คุณกำลังรู้สีกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้าจากภาระกิจยุ่งๆตลอดเช้าถ้าคุณเคยชินกับการดื่มน้ำอัดลมเย็น ๆสักกระป๋อง ซึ่งอาจทำให้อารมณ์สดชื่นขึ้นได้ก็จริงอยู่ แต่มักทำให้คุณอ้วนไม่รู้ตัว แถมยังเป็นภัยกับสุขภาพของกระดูกเสียด้วยสิ ลองเปลี่ยนมาเป็นน้ำแครอต หากปั่นสด ๆ ก็คงจะยิ่งดี เพราะไม่เพียงทำให้คุณอารมณ์แจ่มใสขึ้น รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้น แต่ยังมีคงคุณค่าของวิตามินเอ และซี ซึ่งช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกาย และยังทำให้ผิวพรรณสดใสอีกด้วยค่ะ

4. คอร์นเฟลค หรือข้าวโอ๊ตอบ
คอร์นเฟลคหรือข้าวโอ๊ตอบแห้งนั้น แม้ว่าคุณจะเลือกชนิดที่ไม่เคลือบน้ำตาล ก็ยังจัดว่าเป็นอาหารเพิ่มพลังยามเช้าได้อย่างดี หากเพิ่มนมไขมันต้ำ หรือเติมโยเกิร์ต และตามด้วยผลไม้สด ๆ ที่คุณชอบ ก็จะเป็นอาหารเช้าที่เพอร์เฟ็คสุด ๆ เพราะ นอกจากจะให้พลังงานแก่กล้ามเนื้อแล้ว ยังได้รับโปรตีนและสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของสมองอีกด้วยค่ะ

5. น้ำ
น้ำเปล่านี่แหล่ะ ดีที่สุดค่ะ ยิ่งในยามที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้า คุณควรดื่มน้ำให้มากขึ้น แต่ไม่ควรรอให้รู้สึกหิวน้ำแล้วค่อยตามหาแก้วน้ำนะคะ ควรจิบน้ำอยู่บ่อย ดื่มให้ได้ตลอดวัน ถ้าไม่สะดวกหรือกันลืมก็ต้องวางแก้วน้ำและขวดน้ำไว้ประจำโต๊ะทำงาน พักสายตาจากงานยุ่ง ๆ เมื่อไหร่ ก็จะได้คว้าแก้วน้ำดื่มได้ทันที เพราะประโยชน์ของการดื่มน้ำน่ะ ไม่เพียงช่วยดับร้อน ทำให้หายคอแห้งแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณสดใสช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานสะดวกคล่องตัว หมดปัญหาท้องผูก ที่ทำให้คุณอึดอัดท้องอีกด้วยนะคะ

ที่มา : Womanplus

หุ่นดีกับวิธี.. Coconut Diet

หุ่นดีกับวิธี.. Coconut Diet


วิธีใหม่เอี่ยมสำหรับวงการไดเอท คิดค้นโดย "เชอรี่ คัลบอม" นักโภชนาการชื่อดัง วิธีนี้กำหนดว่าเราต้องไดเอทด้วยอาหารไขมันต่ำที่ปรุงจากน้ำมันมะพร้าวเท่านั้น ข้อดีของน้ำมันมะพร้าวถึงน้ำมันมะพร้าวอาจจะมีไขมันอิ่มตัวบ้าง แต่ก็มีข้อดีตรงที่สามารถกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญของร่างกายเราได้ดี ทำให้น้ำหนักลดเร็ว ยิ่งถ้าทานคู่ไปกับอาหารไขมันต่ำ หุ่นก็จะยิ่งเพรียวขึ้น สำหรับคนที่กลัวว่าไขมันอิ่มตัวในมะพร้าวจะมีโคเลสเตอรอลมากเกินก็อนุโลมให้ใช้น้ำมันมะกอกแทนได้ วิธี Coconut Diet แผนการนี้มีกำหนด 3 สัปดาห์ โดยให้เลือกทานอาหารจากรายการต่อไปนี้ หลังจาก 3 สัปดาห์นี้แล้ว สามารถทานคาร์โบไฮเดรตเพิ่มขึ้นได้ โดยเลือกจากรายการอาหารในสัปดาห์ที่ 4-5

สัปดาห์ที่ 1-3
อาหารเช้า - ไข่คน 2 ฟอง ใส่น้ำกะทิ 1 ช้อน กับแฮมเนื้อล้วนๆ 1 ชิ้น หรือไข่ดาวทอดน้ำมันมะพร้าว 2 ใบกับแฮมเนื้อล้วนๆ 1 ชิ้น
อาหารกลางวัน - ไก่ไร้หนังทอดด้วยน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ กินคู่กับสลัดผักสดเยอะๆ หรือปลาย่าง 1 ตัวกับผักสลัด และน้ำสลัดทำจากน้ำมันมะพร้าว หรือหมูสะเต๊ะ กับสลัดผัสด หรือสลัดกุ้งราดน้ำสลัดจากน้ำมันมะพร้าว
อาหารเย็น - สเต๊กปลา (ปลาทาน้ำมันมะพร้าวเอาไปอบหรือย่าง) ทานกับผักต้ม หรือยำวุ้นเส้นกินกับผักสดคลุกน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อย หรือแกงจืดตามใจชอบ และอกไก่ทอดน้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ หรือผัดถั่วงอกใส่กุ้งกับพริก ใช้น้ำมันมะพร้าวในการผัด

สัปดาห์ที่ 4-5
อาหารเช้า - ไข่คน 2 ฟอง ใส่น้ำกะทิ 1 ช้อน กับแฮมเนื้อล้วนๆ 1 ชิ้น และขนมปังโฮลวีต 1 แผ่น หรือไข่ดาวทอดน้ำมันมะพร้าว 2ใบกับแฮมเนื้อล้วนๆ 1 ชิ้น และขนมปังโฮลวีต 1 แผ่นหรือฟรุตสลัด (ผลไม้ตามใจชอบหั่นเป็นลูกเต๋าคลุกกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติ)
อาหารกลางวัน - ไข่ต้มกับปลา (ทากะทิ) ย่าง หรือปลาผัดพริก (ผัดด้วยน้ำมันมะพร้าว) กับผักต้ม หรือสเต็กอกไก่ทอดน้ำมันมะพร้าวกับสลัดผัก หรือสลัดกุ้งกับผักสด น้ำสลัดทำจากน้ำมันมะพร้าว
อาหารเย็น - กุ้งผัดพริกแกง (ใส่กะทิ) ทานกับผักสดหรือผักต้ม หรือแกงเผ็ดอกไก่ (ใส่กะทิ) จะใส่หน่อไม้หรือไม่ก็ได้กับข้าวกล้องหรือสลัดปลาทูน่ากับมันอบตามใจชอบ

..Tip..
-สามารถทานผักสลัดได้ทุกชนิด ยกเว้นข้าวโพดหวาน ถั่วลันเตา และมันฝรั่ง เพราะมีคาร์โบไฮเดรตสูง
- ถ้าไม่ชอบน้ำมันมะพร้าว จะใช้น้ำมันมะกอกแทนได้
- งดน้ำชา กาแฟ และน้ำอัดลม และควรดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

ที่มา : spicy